เมนู

21. กางเวียน
22. ตั้งฟาง
23. ราดด้วยน้ำมันเดือด ๆ
24. ให้สุนัขทึ้ง
25. ให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ
26. ตัดศีรษะด้วยดาบ.
ในขณะที่เห็นนั้น คนพาลจะมีความรู้สึกอย่างนี้ว่า เพราะเหตุแห่งกรรมชั่ว
ปานใดแล ราชาทั้งหลายจึงจับโจรผู้ประพฤติผิดมาแล้ว สั่งลงกรรมกรณ์
บางชนิด คือ โบยด้วยแส้บ้าง ฯลฯ ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ก็สภาพเหล่านั้น
มีอยู่ในเรา และเราก็ปรากฏในสภาพเหล่านั้นด้วย ถ้าแม้ราชาทั้งหลายรู้จักเรา
ก็จะจับเราแล้วสั่งลงกรรมกรณ์ต่างชนิด คือ โบยด้วยแส้บ้าง ฯลฯ ให้นอน
หงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
คนพาลย่อมเสวยทุกข์โทมนัสข้อที่สองแม้นี้ในปัจจุบัน

ว่าด้วยพาลเสวยทุกข์ในปัจจุบัน


[471] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก กรรมลามกที่
คนพาลทำไว้ในก่อน คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ย่อมปกคลุม
ครอบงำคนพาลผู้อยู่บนตั้ง หรือบนเตียง หรือนอนบนพื้นดินในสมัยนั้น
เปรียบเหมือนเงายอดภูเขาใหญ่ ย่อมปกคลุม ครอบงำแผ่นดินในสมัยเวลาเย็น
ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล กรรมลามกที่คนพาลทำไว้
ในก่อน คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ย่อมปกคลุม ครอบงำคนพาล
ผู้อยู่บนตั้ง หรือบนเตียง หรือนอนบนพื้นดินในสมัยนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ในสมัยนั้น คนพาลจะมีความรู้สึกอย่างนี้ว่า เราไม่ได้ทำความดี ไม่ได้ทำกุศล
ไม่ได้ทำเครื่องป้องกันความหวาดกลัวไว้ ทำแต่ความชั่ว ทำแต่ความร้าย
ทำแต่ความเลว ละโลกนี้ไปแล้ว จะไปสู่คติของคนที่ไม่ได้ทำความดี ไม่ได้
ทำกุศล ไม่ได้ทำเครื่องป้องกันความหวาดกลัวไว้ ซึ่งทำแต่ความชั่ว ความร้าย
และความเลว เป็นกำหนด คนพาลนั้นย่อมเศร้าโศก ลำบากใจ คร่ำครวญ
ร่ำไห้ ทุ่มอก ถึงความหลงพร้อม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลย่อมเสวยทุกข์
โทมนัสข้อที่สามนี้แลในปัจจุบัน.
[472] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั้นนั่นแลประพฤติทุจริต
ทางกาย ทางวาจา ทางใจแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต
นรก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อจะกล่าวถึงอบาย ซึ่งเขาพูดหมายถึงนรก
นั่นแลโดยชอบ พึงกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่า
พอใจส่วนเดียว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพียงเท่านี้แม้จะเปรียบอุปมาจนถึงนรก
เป็นทุกข์ ก็ไม่ใช่ง่ายนัก.
[473] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วอย่างนี้ ภิกษุรูปหนึ่งได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อาจเปรียบอุปมา
ได้หรือไม่ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ อาจเปรียบได้ แล้วตรัส
ต่อไปว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพวกราชบุรุษจับโจรผู้ประพฤติ
ผิดมาแสดงแต่พระราชาว่า ขอเดชะ ผู้นี้เป็นโจรประพฤติผิดต่อพระองค์. ขอ
พระองค์โปรดลงอาชญาที่ทรงพระราชประสงค์แก่มันเถิด พระราชาทรงสั่งการ
นั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ไปเถิด พวกทานจึงเอาหอกร้อยเล่มแทงบุรุษนี้ใน
เวลาเช้า พวกราชบุรุษจึงเอาหอกร้อยเล่มแทงบุรุษนั้น ในเวลาเช้า ครั้นเวลา
กลางวัน พระราชาตรัสถามอย่างนี้ว่า พ่อมหาจำเริญ บุรุษนั้น เป็นอย่างไร
พวกราชบุรุษกราบทูลว่า ขอเดชะ ยังเป็นอยู่อย่างเดิมพระเจ้าข้า พระราชา

ทรงสั่งการนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ไปเถิด พวกท่านจงเอาหอกร้อยเล่มแทง
มันในเวลากลางวัน พวกราชบุรุษจึงเอาหอกร้อยเล่มแทงบุรุษนั้นในเวลา
กลางวัน ครั้นเวลาเย็น พระราชาตรัสถามอย่างนี้ว่า พ่อมหาจำเริญ บุรุษนั้น
เป็นอย่างไร พวกราชบุรุษกราบทูลว่า ขอเดชะ ยังเป็นอยู่อย่างเดิมพระเจ้าข้า
พระราชาทรงสั่งการนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ไปเถิด พวกท่านจงเอาหอก
ร้อยเล่มแทงมันในเวลาเย็น พวกราชบุรุษจึงเอาหอกร้อยเล่มแทงบุรุษนั้น ใน
เวลาเย็น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษ
นั้นถูกแทงด้วยหอกสามร้อยเล่ม พึงเสวยทุกข์โทมนัสเหตุที่ถูกแทงนั้น บ้าง
หรือหนอ.
ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุรุษนั้น ถูกแทง
ด้วยหอกแม้เล่มเดียว ก็เสวยทุกข์โทมนัสเหตุที่ถูกแทงนั้นได้ ป่วยการกล่าว
ถึงหอกตั้งสามร้อยเล่ม.
[474] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหยิบแผ่นหินย่อม ๆ
ขนาดเท่าฝ่ามือ แล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอ
จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน แผ่นหินย่อม ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือที่เราถือนี้กับ
ภูเขาหลวงหิมพานต์ อย่างไหนหนอแลใหญ่กว่ากัน.
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แผ่นหินย่อม ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือที่ทรงถือนี้
มีประมาณน้อยนัก เปรียบเทียบภูเขาหลวงหิมพานต์แล้ว ย่อมไม่ถึงแม้ความ
นับ ย่อมไม่ถึงแม้ส่วนแห่งเสี้ยว ย่อมไม่ถึงแม้การเทียบกันได้.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแลทุกข์โทมนัสที่บุรุษถูก
แทงด้วยหอกสามร้อยเล่มเป็นเหตุ กำลังเสวยอยู่นั้น เปรียบเทียบ ทุกข์ของนรก
ยังไม่ถึงแม้ความนับ ยังไม่ถึงแม้ส่วนแห่งเสี้ยว ยังไม่ถึงแม้การเทียบกันได้.

ว่าด้วยการจองจำ 5 ประการ


[475] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านายนิรยบาลจะให้คนพาลนั้น
กระทำเหตุชื่อการจองจำ 5 ประการคือ ตรึงตะปูเหล็กแดงที่มือข้างที่ 1 ข้างที่ 2
ที่เท้าข้างที่ 1 ข้างที่ 2 และที่ทรวงอกตรงกลาง คนพาลนั้น จะเสวยเวทนาอัน
เป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบ อยู่ในนรกนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมยังไม่
สิ้นสุด.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านายนิรยบาลจะจับคนพาลนั้นขึงพืดแล้วเอา
ผึ่งถาก คนพาลนั้นจะเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบอยู่ในนรกนั้น
และยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมยังไม่สิ้นสุด.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านายนิรยบาลจะจับคนพาลนั้นเอาเท้าขึ้นข้าง
บนเอาหัวลงข้างล่างแล้วถากด้วยพร้า คนพาลนั้นจะเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์
กล้า เจ็บแสบ อยู่ในนรกนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมยังไม่สิ้นสุด.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านายนิรยบาลจะเอาคนพาลนั้นเทียมรถแล้ว
ให้วิ่งกลับไปกลับ มาบนแผ่นดินทีมีไฟติดทั่ว ลุกโพลงโชติช่วง คนพาลนั้นจะ
เสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบ อยู่ในนรกนั้น และยังไม่ตายตราบเท่า
บาปกรรมยังไม่สิ้นสุด.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านายนิรยบาลจะให้คนพาลนั้นปีนขึ้นปีนลง
ซึ่งภูเขาถ่านเพลิงลูกใหญ่ที่มีไฟติดทั่ว ลุกโพลง โชติช่วง คนพาลนั้น จะเสวย
เวทนาอันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบ อยู่ในนรกนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าบาป
กรรมยังไม่สิ้นสุด.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านายนิรยบาลจะจับคนพาลนั้น เอาเท้าขึ้นข้าง
บนเอาหัวลงข้างล่าง แล้วพุ่งลงไปในหม้อทองแดงที่ร้อนมีไฟติดทั่ว ลุกโพลง